ปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่ของ iPhone เป็นเรื่องที่ผู้ใช้หลายคนต้องประสบพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแบตเตอรี่ค้าง, แบตเตอรี่สภาพเสื่อม, ชาร์จไม่เข้า, หรือชาร์จไม่เต็ม หนึ่งในปัญหาที่กวนใจอย่างมากคือ การชาร์จแล้วแบตเตอรี่ค้างที่ 80% สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้คือ การสร้างความร้อนภายในตัวเครื่องขณะชาร์จ ซึ่ง Apple ได้ออกมาอธิบายว่าเป็นมาตรการป้องกันเพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
การรับมือกับปัญหาความร้อนสูงของ iPhone นั้นสามารถทำได้โดยการเช็คว่าตัวเครื่องมีความร้อนเพิ่มขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้อาจจะสังเกตจากการทำงานของระบบที่ช้าลง หรือจากการสัมผัสตัวเครื่องและรู้สึกถึงความร้อน หากคุณพบว่า iPhone ของคุณร้อนผิดปกติ ควรหยุดการใช้งานและอาจพิจารณาเปิดใช้โหมด Airplane ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานและช่วยให้เครื่องเย็นลงได้
สาเหตุของการชาร์จแบตค้างที่ 80%:
ความร้อนภายในเครื่อง: ระหว่างการชาร์จ หรือการใช้งานหนัก เช่น การเล่นเกม หรือการใช้แอพพลิเคชันที่ใช้พลังประมวลผลสูง อาจทำให้เครื่องร้อนจัด และระบบจะจำกัดการชาร์จไม่ให้เกิน 80% เพื่อป้องกันความเสียหายของแบตเตอรี่
สภาพแวดล้อมที่ร้อนจัด: การใช้งาน iPhone ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น กลางแดดจัด หรือในรถที่จอดกลางแดด อาจทำให้เครื่องร้อนเกินไป
วิธีการตรวจสอบและรับมือ
ตรวจสอบความร้อนของเครื่อง: สังเกตุจากการลดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง หรือสัมผัสด้วยมือว่าตัวเครื่องร้อนกว่าปกติหรือไม่
ใช้โหมด Airplane: เปิดโหมดนี้เมื่อรู้สึกว่าเครื่องเริ่มร้อน โหมดนี้จะช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่อง ทำให้ระบบสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ดีขึ้น
วิธีการหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต
หลีกเลี่ยงการใช้งานหนักขณะชาร์จ: ไม่ควรใช้งานแอพหนักๆ ขณะที่กำลังชาร์จ เพื่อลดการสร้างความร้อนในตัวเครื่อง
วางแผนการชาร์จอย่างรอบคอบ: ชาร์จในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ไม่วางตัวเครื่องในที่ที่มีความร้อนสูง เช่น ภายใต้แสงแดดโดยตรง
ใช้โหมดพักเครื่อง: เมื่อรู้สึกว่าเครื่องร้อน เปิดใช้งานโหมดนี้เพื่อช่วยให้เครื่องเย็นลง
โดยการปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้ คุณจะสามารถช่วยปกป้องแบตเตอรี่และเพิ่มอายุการใช้งานของ iPhone ได้อย่างมีประสิทธิภาพ