ผู้เชี่ยวชาญชี้ iPhone ช้าลงเพราะ “Background App Refresh” ฟีเจอร์ดึงข้อมูลแอปเบื้องหลัง ปิดแล้วช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น แถมประหยัดแบตเตอรี่ได้จริง
ทำไม iPhone ช้าลง เมื่อใช้นาน ๆ?
ผู้ใช้ iPhone หลายคนเจอปัญหาเครื่องหน่วง เครื่องร้อน หรือแบตหมดเร็ว ทั้งที่ไม่ได้ใช้งานมาก สาเหตุหลักมาจากฟีเจอร์ Background App Refresh ที่เปิดโดยอัตโนมัติ ทำให้แอปต่าง ๆ โหลดข้อมูลใหม่ตลอดเวลา แม้คุณจะไม่ได้เปิดใช้งานอยู่บนหน้าจอ
Background App Refresh ตัวการทำเครื่องหน่วง–แบตหมดไว
- แอปที่ทำงานเบื้องหลัง = ใช้พลังงานแบตเตอรี่ต่อเนื่อง
- เครื่องต้องทำงานหลายอย่างพร้อมกัน → ส่งผลให้ระบบหน่วง
- หากมีหลายแอปรีเฟรชพร้อมกัน จะกินทรัพยากรและทำให้เครื่องช้าลง
คำแนะนำผู้เชี่ยวชาญ
- Daria Maltseva (KeyUA): ควรปิด Background App Refresh เพื่อลดการใช้พลังงานและทำให้เครื่องเร็วขึ้น
- Mitch.H (Tech Gearoid): ฟีเจอร์นี้กินแบตมาก ควรปิดเว้นแต่แอปจำเป็นจริง ๆ เช่น แอปแผนที่ หรืออีเมล
วิธีปิด Background App Refresh บน iPhone
- ไปที่ Settings (การตั้งค่า)
- เลือก General (ทั่วไป)
- กดที่ Background App Refresh (ดึงข้อมูลใหม่ให้แอปอยู่เบื้องหลัง)
- เลือก Off (ปิดทั้งหมด) หรือเลือกเฉพาะแอปที่ไม่จำเป็น
เคล็ดลับเสริม: ลบไฟล์ไม่จำเป็นออกทุก 3–4 เดือน เช่น วิดีโอหรือรูปใหญ่ ๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างและทำให้ iPhone ลื่นขึ้น
ฟีเจอร์ iPhone ที่ควรปิด ช่วยให้เครื่องเร็วขึ้น แบตฯ อึด
- ปัญหา iPhone ช้าลง เกิดจาก Background App Refresh
- ฟีเจอร์นี้ทำให้แบตหมดไว และกินทรัพยากรเครื่อง
- ปิดได้ง่าย ๆ ใน Settings > General > Background App Refresh
- เลือกปิดทั้งหมด หรือเฉพาะแอปที่ไม่จำเป็น
- เสริมด้วยการลบไฟล์/รูปใหญ่ ๆ เป็นระยะ → เครื่องทำงานเร็วขึ้น
สรุป
หากคุณรู้สึกว่า iPhone เริ่มช้าลงหรือแบตหมดเร็ว ลองปิด Background App Refresh แล้วคุณจะสัมผัสได้ว่าเครื่องกลับมาเร็วขึ้น ใช้งานลื่นไหลกว่าเดิม และยังช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อีกด้วย